วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปบทที่ 6,แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6,กรณีศึกษา

สรุปบทที่ 6
ระบบสารสนเทศสำหรับการปฎิบัติงาน




                ระบบปฏิบัติการทางธุรกิจที่เรียกว่า TPS   คือ ระบบสารสนเทศที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นโดยใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นอุปกรณ์หลักของระบบ เพื่อให้ทำงานเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานภายในองค์การอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

                ระบบจัดทำรายงานสำหรับการจัดการรายงานที่เรียกว่า MRS  คือ ระบบสารสนเทศที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวม ประมวลผล จัดระบบ และจัดทำรายงาน หรือเอกสารสำหรับช่วยในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร เนื่องจากรายงานที่ถูกทำอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ

                ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่เรียกว่า DSS คือ  ระบบที่จัดหาหรือจัดเตรียมสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร เพื่อช่วยในการตัดสินใจแก้ปัญหาหรือเลือกโอกาสที่เกิดขึ้น ปกติปัญหาของผู้บริหารจะมีลักษณะที่เป็นกึ่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ซึ่งยากต่อการวางแนวทางรองรับหรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต

                ระบบสารสนเทศสำนักงานที่เรียกว่า OIS คือ ระบบที่ถูกออกแบและพัฒนาขึ้นให้ช่วยการทำงานในสำนักงาน โดยที่ OIS จะประกอบขึ้นจากเทคโนโลยีสารสนเทศและใช้เทคโนโลยีเครื่องใช้สำนักงานเพื่อเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในสำนักงาน



แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6

1. ทำไมแนวโน้มของระบบสารสนเทศ จึงมีการนำไปสนับสนุนงานธุรกิจหลายด้าน

ตอบ เพื่อแก้ปัญหาและสร้างโอกาสในธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานระบบสารสนเทศ สามารถสนองความต้องการการใช้งานด้านธุรกิจได้

2. ทำไมระบบการตลาดปัจจุบัน จึงเปลี่ยนมาเป็นการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต จงอธิบาย
ตอบ การตลาดทำหน้าที่สำคัญในการจัดการธุรกิจการค้า องค์ธุรกิจจะต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานด้านการตลาดที่สำคัญในอันที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

3. จงยกตัวอย่างของบริษัทที่นำระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยทางธุรกิจ
ตอบ บริษัท Gulf States Paper Corporation

4. ระบบการขายในสำนักงานอัตโนมัติ มีผลกระทบต่อพนักงานขาย พนักงานฝ่ายบริหารการตลาด และฝ่ายจัดทำเรื่องการแข่งขันอย่างไร
ตอบ การเพิ่มจำนวนขึ้นของคอมพิวเตอร์และเครือข่ายทำให้เกิดปัจจัยพื้นฐานสำหรับแรงขับเคลื่อนการขายอัตโนมัติ ในหลายๆบริษัท ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เว็บบราวเซอร์และซอฟแวร์ด้านการจัดการติดต่อการขายเป็นเครื่องมือที่จะเชื่อมต่อกับเว็บไซท์การตลาดบนอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์ทราเน็ตและอินทราเน็ตของบริษัท

5. ระบบอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต สามารถนำมาช่วยในการทำงานร่วมกันในกระบวนการผลิตได้อย่างไร
ตอบ กระบวนการผลิตเหมือนกับคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยงานวิศวกรรมและการออกแบบ การควบคุมการผลิต ตารางการผลิต และการบริหารด้านการจัดหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการความร่วมมือ การเพิ่มในเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ตและเครือข่ายอื่นๆเพื่อเชื่อโยงกับสถานีงาน

6. ระบบอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต ช่วยสนับสนุนด้านการการจัดการเรื่องทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างไร ยกตัวอย่างมาอย่างละ 3 ตัวอย่าง
ตอบ          อินเทอร์เน็ต เช่น ระบบออนไลน์ของ HRM ได้เกี่ยวข้องกับการจัดหาลูกจ้างผ่านเว็บไซท์ของแผนกจัดหาลูกจ้างของบริษัท ใช้บริการและฐานข้อมูลของบริษัทจัดหางานบนเว็บ การประกาศผ่านกลุ่มข่าวบนอินเทอร์เน็ตและสื่อสารกับผู้สมัครงานผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ 
         อินทราเน็ต เช่น การให้บริการตัวเองของลูกจ้างจะช่วยให้พนักงานได้เห็นรายงานด้านผลประโยชน์และค่าใช้จ่าย ข้อมูลด้านการจ้างงานและเงินเดือน สามารถเข้าถึงและปรับปรุงสารสนเทศส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน

7. เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ด้านการบัญชี และการเงินอย่างไร อธิบาย
ตอบ ระบบคอมพิวเตอร์ด้านการบัญชีจะทำการบันทึกและรายงานการไหลเวียนของเงินทุนภายในองค์กรในเรื่องที่สำคัญในอดีตและผลิตรายการด้านการเงิน ส่วนระบบสารสนเทศด้านการเงินสนับสนุนผู้จัดการฝ่ายการเงินในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเงินของบริษัท เป็นต้น

8. ถ้านักศึกษาเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นผู้บริหารหรือเป็นผู้ประกอบการทางธุรกิจเอง นักศึกษาคิดที่จะนำเอาระบบสาระสนเทศมาใช้หรือไม่ เพราะเหตุใด จงให้เหตุผล
ตอบ ใช้ เพราะระบบสารสนเทศสามารถที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราไปอย่างได้ง่ายขึ้น สะดวกในการบริหารงานมากขึ้น ยิ่งในเรื่องของระบบสารสนเทศด้านบัญชีที่ช่วยในเรื่องของระบบบัญชีออนไลน์ที่ช่วยในเรื่องของกระบวนการสั่งซื้อ การควบคุมสินค้าคงคลัง เป็นต้น

แหล่งที่มา Sukanya


กรณีศึกษา


ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) ของบริษัทเงินทุน Fidelity

 1. ข้อดีและข้อเสียของระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) มีอะไรบ้าง
ตอบ  ข้อดีของ EIS คือ

                         1. ผู้บริหารสามารถรับข้อมูลปฏิบัติการผ่านระบบคอมพิวเตอร์จากระบบฐานข้อมูลได้  
                         2. ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดการเงิน
                         3. การใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ 
                         4. มีการกรองข้อมูลทำให้ประหยัดเวลา
ข้อเสียของ EIS คือ
                         1. มีข้อจำกัดในการใช้งาน
                         2. ยากต่อการประเมินผลประโยชน์ที่ได้จากระบบ 
                         3. ไม่สามารถทำการคำนวณที่ซับซ้อนได้ 
                         4. ก่อให้เกิดปัญหาการรักษาความลับของข้อมูล

2. เหตุใดการออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) จึงเป็นการยากมากสำหรับบริษัทเงินทุน Fidelity

ตอบ เพราะในการออกแบบระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารนั้น ทำให้บริษัทเงินทุน Fidelity ต้องบริหารกิจการเงินทุนที่มีมูลค่ามาก และต้องซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัยในราคาสูงเพื่อคุณภาพที่ดี

3. ท่านคิดว่าระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (EIS) ของบริษัทเงินทุน Fidelity จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างไร

ตอบ สามารถช่วยให้การบริการนั้นเป็นไปในทางที่ง่ายมีข้อมูลที่สมบูรณ์ทัน เหตุการณ์ และสามารถปรับตัวการเปลี่ยนแปลงตลอดหุ้นให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอันเป็นประโยชน์ ในภาคการบริหารด้านการเงิน

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปบทที่ 5 อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ตและอินเทอร์เน็ต,กรณีศึกษา,แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5

สรุปบทที่ 5
อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ตและอินเทอร์เน็ต
ที่มา: http://www2.cvc.ac.th/trsai/it/learning1/chapter9.htm

       อินทราเน็ตเป็นเครือข่ายภายในองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมือนอินเทอร์เน็ตภายในองค์กร เพื่อการแบ่งปันสารสนเทศ การติดต่อสื่อสาร ความร่วมมือ และการสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ อินทราเน็ตได้รับการป้องกันด้วยมาตรฐานความปลอดภัย เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
การประยุกต์ใช้อินทราเน็ต
      บริษัทต่างๆใช้เทคโนโลยีอินทราเน็ตเพื่อการสืบค้นข้อมูล เป็นเครื่องมือความร่วมมือ เก็บประวัติส่วนตัวของลูกค้า เชื่อต่อไปยังอินเทอร์เน็ต และคิดว่าการลงทุนในอินทราเน็ตเป็นเรื่องพื้นฐานเหมือนการติดตั้งโทรศัพท์ให้แก่พนักงานการสื่อสารและความร่วมมือ อินทราเน็ตสามารถปรับปรุงและความมือภายในองค์กร  งานสิ่งพิมพ์บนเว็บ มีความง่าย ความสวยงามน่าสนใจ ต้นทุนที่ต่ำของการจัดพิมพ์และการเข้าถึงสารสนเทศธุรกิจสื่อประสมภายในผ่านเว็บไซท์อินอินทราเน็ต
       การดำเนินธุรกิจและการจัดการ อินทราเน็ตถูกใช้เป็นฐานงานสำหรับการพัฒนาและนำมาใช้กับโปรแกรมประยุกต์ธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและตัดสินใจด้านการจัดการระหว่างองค์กร
จากอินทราเน็ตของ Sun ทำให้ได้ความคิดที่ดีสำหรับโปรแกรมประยุกต์และบริการที่ธุรกิจสามารถนำมาให้พนักงานใช้บนอินทราเน็ต ดังนี้
          -   การเรียกดู 3 แบบ ได้แก่ การเรียกดูระดับองค์กร การเรียกดูตามหน้าที่ และ การเรียกดูตามภูมิศาสตร์
          -  มีอะไรใหม่ๆ                                  -    การเดินทาง
          -  ห้องสมุดและการศึกษา                     -    ทรัพยากรมนุษย์และสิทธิประโยชน์
          -  การตลาดและการขาย                      -    วิทยาเขตของ Sun
          -  สารบัญแฟ้มผลิตภัณฑ์                      -    ชุดบริการ
          -  สารสนเทศทางวิศวกรรม                   -    ชุดเครื่องมือก่อสร้าง
        ทรัพยากรเทคโนโลยีอินทราเน็ตอินทราเน็ตเป็นเครือข่ายภายในองค์กรที่มีลักษณะเหมือนอินเทอร์เน็ต ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นไปได้ ดังนั้น อินทราเน็ตจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของเว็บบราวเซอร์ แม่ข่าย เครือข่ายรับและให้บริการ และฐานข้อมูลสื่อหลายมิติที่สามารถเข้าถึงได้บนอินทราเน็ตและ WWW.
มูลค่าทางธุรกิจของอินทราเน็ต
         -    การประหยัดต้นทุนงานสิ่งพิมพ์ ช่วยลดการพิมพ์ การส่งไปรษณีย์ และการกระจายต้นทุน
         -   การประหยัดต้นทุนการอบรมและการพัฒนา การเข้าถึงสารสนเทศและโปรแกรมประยุกต์จัดพิมพ์เว็บสำหรับอินทราเน็ตที่ง่ายกว่าวิธีการเดิมมาก
บทบาทของเอ็กซ์ทราเน็ต
        ธุรกิจยังคงใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแบบเปิดหรือเอ็กซ์ทราเน็ตอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและหุ้นส่วน ทำให้ได้เปรียบคู่แข่งขัน ในการพัฒนาสินค้าและเพิ่มความเป็นหุ้นส่วน
มูลค่าทางธุรกิจของเอ็กซ์ทราเน็ตได้มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ เทคโนโลยีเว็บบราวเซอร์ของเอ็กซ์เน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ตทำให้บริษัทสามารถเสนอบริการเชิงเว็บประเภทใหม่ที่น่าสนใจให้แก่หุ้นส่วนทางธุรกิจ
ระบบความร่วมมือองค์กร
เป้าหมายของระบบความร่วมมือองค์กร คือ การสามารถทำงานร่วมกันที่ง่ายขึ้นมีประสิทธิภาพขึ้น ดังนี้
           -  การติดต่อสื่อสาร แบ่งปันสารสนเทศกับผู้อื่น
           -   การประสานงาน ประสานความพยายามในเรื่องงานของแต่ละบุคคลและการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
           -   ความร่วมมือ ทำงานร่วมกันในโครงการร่วมและงานที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนประกอบของระบบความร่วมมือองค์กร
เป็นระบบสารสนเทศ ดังนั้น จึงใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ ข้อมูลและครือข่าย เพื่อนสนับสนุนการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน และความร่วมมือระหว่างสมาของทีม
กรุ๊ปแวร์สำหรับความร่วมมือองค์กร กรุ๊ปแวร์ หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนใช้สารสนเทศร่วมกันกับผู้อื่นและทำงานร่วมกันในหลายๆโครงการ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน โปรแกรมการจัดการติดต่อบนเครือข่ายสำเร็จรูปและไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงโปรแกรมการใช้เอกสารร่วมกัน
เครื่องมือการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
           -   ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์  เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นในธุรกิจ
           -   โทรศัพท์อินเทอร์เน็ตและโทรสาร เป็นเครื่องมือที่ต้นทุนต่ำและใกล้ที่จะเป็นสื่อสารสากลช่วยในการส่งโทรสาร รับไปรษณีย์เสียง และนำสู้การสนทนาสองทาง
           -   งานสิ่งพิมพ์บนเว็บ เป็นเครื่องมือการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญสำหรับความร่วมมือองค์กร ได้แก่ ซอฟต์แวร์โปรแกรมประยุกต์
เครื่องมือการประชุมอิเล็กทรอนิกส์
ช่วยให้ผู้ใช้ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งปันสารสนเทศทำงานร่วมกันที่ได้รับหมอบหมาย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม
      -   การประชุมข้อมูล ผู้ใช้ที่เครื่องลูกข่าย สามารถเรียกดูแก้ไข ปรับปรุง บันทึกการแก้ไขลงที่กระดาษสีขาว เอกสาร และสิ่งอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกัน
         -   การประชุมเสียง การสนทนาทางโทรศัพท์ร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนร่วมผ่านทางโทรศัพท์หรือเครื่องลูกข่ายด้วยซอฟต์แวร์โทรศัพท์อินเทอร์เน็ต
        -  การประชุมทางวีดีทัศน์ แบบทันทีและการประชุมทางไกลโดยเสียง ระหว่างผู้ใช้ที่เครื่องลูกข่ายหรือระหว่างผู้มีส่วนร่วมในห้องประชุมที่ต่างสถาบันกัน รวมการใช้กระดาษสีขาวและการแบ่งปันเอกสาร
         -   กลุ่มหรือชุมชนสนทนา เตรียมระบบสารสนเทศเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อกระตุ้นและจัดการสนทนาข้อความแบบออนไลน์ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างสมาชิกกลุ่มที่มีความสนใจพิเศษหรือทีมโครงการ
        -   ระบบพูดคุย การทำให้ผู้ใช้สองคนหรือมากกว่าบนเครื่องลูกข่ายสามารถสนทนาข้อความแบบออนไลน์ได้แบบทันที
        -    ระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ การใช้ห้องประชุมกับเครื่องลูกข่าย โดยเครื่องฉายภาพจอภาพขนาดใหญ่ และซอฟต์แวร์ EMS เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร การให้ความร่วมมือและการตัดสินใจของกลุ่มในระหว่างการประชุมทางธุรกิจ
เครื่องมือการจัดการงานที่ทำร่วมกัน
ช่วยให้คนทำงานได้สำเร็จหรือจัดการกิจกรรมที่ทำงานร่วมกัน
        -   ปฎิทินและกำหนดการ การใช้ปฏิทินอิเล็กทรอนิกส์และคุณสมบัติอื่นของกรุ๊ปแวร์เพื่อทำกำหนดการ บอกล่าว หรือเตือนอัตโนมัติแก่สมาชิกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของทีมและกลุ่มร่วมงานของการประชุม การนัดหมายและเหตุการณ์อื่นๆ
     -   งานและการจัดการโครงการ จัดการทีมและกลุ่มร่วมงานโครงการด้วยกำหนดการ การติดตามและทำแผนภูมิสถานะความสำเร็จของงานภายใต้โครงการ
       -   ระบบกระแสงาน ช่วยให้คนงานที่มีความรู้เครือข่ายร่วมมือเพื่อทำงานให้สำเร็จและจัดการการไหลของงานที่มีโครงสร้างและการประมวลผลเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ภายในกระบวนการทางธุรกิจ
       -   การจัดการความรู้ จัดระเบียบและแบ่งปันแบบฟอร์มของสารสนเทศทางธุรกิจที่สร้างภายในองค์กร รวมทั้งการจัดการโครงการและห้องสมุดเอกสารองค์กร ฐานข้อมูลการสนทนา ฐานข้อมูลเว็บไซท์สื่อหลายมิติ และฐานความรู้ประเภทอื่นๆ
ที่มา : จตุพล กลิ่นศรีสุข

กรณีศึกษา
Nu Skin International: มูลค่าทางธุรกิจเอ็กซ์ทราเน็ตของตัวแทนจำหน่าย
1.    อะไรคือวัตถุประสงค์ของ Nu Skin ในการใช้เอ็กซ์ทราเน็ต อะไรคือผลประโยชน์ที่ Nu Skin คาดหวัง
ตอบ การเสริมเครื่องมือสนับสนุนการเจาะตลาดตามบ้าน การใช้เอ็กซ์ทราเน็ตสำหรับเก็บคำสั่งซื้อ คาดหวังที่จะลดต้นทุนการดำเนินงาน
2.    ตัวแทนจำหน่ายของ Nu Skin ได้รับผลประโยชน์อะไรจากเอ็กซ์ทราเน็ต
ตอบ ได้รับสารสนเทศเกี่ยวกับเครื่องสำอาง โภชนาการ และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาที่บริษัทมีเสนออยู่ได้สั่งซื้อแบบออนไลน์ จัดการการส่งสินค้า ตรวจสอบยอดขายของตัวเองสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายใหม่และติดตามการจ่ายเช็กรายเดือน
3.    ทำไมเอ็กซ์ทราเน็ตจึงเป็นแนวคิดในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับเครือข่ายของตัวแทนจำหน่ายทางด้านการตลาดธุรกิจเช่น Nu Skin
ตอบ การให้บริการบนเว็บจะทำให้เกิดการผลักดันในเรื่องการแข่งขันและจูงใจตัวแทนจำหน่ายรายใหม่และได้รับสารสนเทศที่ต้องการในเวลาที่ต้องการ


แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5
1.    มีธุรกิจอะไรบ้าง ที่นำเข้าระบบอินทราเน็ตเข้าไปช่วยในการเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรของตน
        ตอบ บริษัท US West Communications และ Netscape Communications
2.    นักศึกษาเห็นด้วยหรือไม่ ที่มีบางบริษัทนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ในการติดต่อกับพนักงานและร้านค้าต่างๆ ด้วยการใช้โทรศัพท์
        ตอบ เป็นเครื่องมือที่ต้นทุนต่ำและใกล้ที่จะเป็นการสื่อสารสากลช่วยในการส่งโทรสาร รับไปรษณีย์เสียงและนำสู่การสนทนาสองทาง
3.    มีอะไรบ้างที่เป็นข้อจำกัดในการนำเข้าระบบอินทราเน็ตมาใช้ในธุรกิจปัจจุบัน
        ตอบ เทคโนโลยีใหม่ที่ค่อยเป็นค่อยไป ขาดคุณสมบัติในเรื่องความปลอดภัย ขาดการจัดการปฏิบัติงาน การสนับสนุนจากผู้ใช้ต่ำสุด อาจต้องการการยกระดับเครือข่าย แม่ข่ายไม่สามารถใช้งานร่วมกันระหว่างรุ่นต่างๆได้ ไม่ได้อัตราส่วนกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้โปรแกรมประยุกต์เชิงโต้ตอบที่เพิ่มขึ้น ยากที่จะบำรุงรักษาสารบัญได้ตลอดเวลา ภาพเคลื่อนไหว วีดีทัศน์และเสียงที่ช้า สารสนเทศที่ไม่ได้กรองอาจจะท่วมผู้ใช้ พนักงานไม่ทุกคนที่จะมีคอมพิวเตอร์
4.    นักศึกษาเห็นด้วยหรือไม่ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้เป็นจำนวนมากที่มีประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์และมีความต้องการที่จะใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันหรือติดต่อกับบุคคลอื่น เพราะเหตุใด
        ตอบ เห็นด้วย เพราะในยุคนี้เป็นยุคของโลกไซน์เบอร์ที่ต้องมีการพัฒนาตัวเองทางด้านคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์กันมากขึ้นเพื่อเพิ่มความรู้และตามทันคู่แข่งขันที่ทันสมัยที่มีการแข่งขันสูง
5.    จงยกตัวอย่างของบริษัทที่ใช้อินทราเน็ตให้บริการทางธุรกิจ
        ตอบ บริษัท US West Communications
6.    จงยกตัวอย่างของบริษัทที่ใช้เอ็กซ์ทราเน็ตให้บริการทางธุรกิจ
        ตอบ บริษัท Nu Skin Internetional
7.    นักศึกษาเคยใช้การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) หรือการพูดคุยผ่านระบบคอมพิวเตอร์(Chat) หรือการประชุมร่วมกันตัดสินใจหรือไม่ และให้เหตุผลที่จะนำเอาระบบเหล่านี้ มาที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารและการทำงานร่วมกัน จงอธิบาย
         ตอบ เคย เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับผู้อื่นในธุรกิจ ส่งสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของเอกสาร แฟ้มข้อมูลและข้อความสื่อประสม
8.    จงยกตัวอย่างเครื่องมือการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
        ตอบ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ไปรษณีย์เสียง การส่งโทรสาร งานสิงพิมพ์บนเว็บ

ที่มา:  https://sites.google.com/site/chodiwat2/kherux-khay-khxmphiwtexr/xinthexrnet-xinthranet
        http://learn.wattano.ac.th/
        http://num-kwang.blogspot.com/2011/08/5.html

วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

แบบฝึกหัดบทที่4,คำถามกรณีศึกษา,สรุปบทที่4

เเบบฝึกหัดบทที่ 4

1.) ทำอย่างไร  ที่องค์กรธุรกิจสามารถที่จะใช้เครือข่ายระหว่างองค์กร  ในการจัดเก็บ เข้าถึงและแจกจ่ายข้อมูล และสารสนเทศ ไปยังหน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอกได้                                                                    
ตอบ   เพื่อปรับปรุงการโฆษณาการตลาดให้ประสบความสำเร็จโดยการรวบรวมข้อมูลภายในและภายนอกของลูกค้าและข้อมูลการตลาดในการคลังข้อมูล

2.) อะไรคือบทบาทของการจัดการฐานข้อมูล และการวางแผนที่จะใช้ข้อมูลมาเป็นส่วนสำคัญในการธุรกิจ                 
ตอบ   - การปรับปรุงและบำรุงรักษาฐานข้อมูล เป็นผลมาจากรายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดใหม่และเหตุการณ์อื่นๆ                  -การเตรียมสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับใช้งาน โดยการแบ่งปันข้อมูล(Sharing of Data) ในฐานข้อมูลเดียวกัน             -การเตรียมความสามารถในการโต้ตอบ ค้นหา และจัดทำรายงาน โดยโปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูลสำเร็จรูป

3.)อะไรคือประโยชน์ของแนวคิดในการรวบรวมฐานข้อมูล การเข้าถึง และการจัดการทรัพยากรข้อมูล จงยกตัวอย่างประกอบ                                                                                                                                   
ตอบ  การวางแผนข้อมูล เป็นการวิเคราะห์หน้าที่ที่เน้น ในเรื่องการจัดการทรัพยากรข้อมูล รวมทั้งการพัฒนาสถาปัตยกรรมข้อมูลโดยรวมสำหรับทรัพยากรข้อมูลขององค์กร

4.)อะไรคือบทบาทของระบบสารสนเทศในการจัดการระบบฐานข้อมูล                                                    
 ตอบ  ในการจัดทรัพยากรข้อมูลในการใช้เทคโนโลยีจัดการฐานข้อมูลที่เหมาะสม รวมทั้งการพัฒนาและการบำรุงรักษาพจนานุกรมข้อมูล

5.)ฐานข้อมูลสารสนเทศนั้น เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการปฏิบัติการภายในองค์กร ให้พิจารณาว่า ยังมีฐานข้อมูลประเภทใดอีกที่มีความในธุรกิจปัจจุบัน                                                                                               
ตอบ  วิธีการสร้างฐานข้อมูล การค้นหา แลการบำรุงรักษา เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ต้องการสำหรับผู้ใช้และองค์กร

6.) อะไรคือข้อดีหรือประโยชน์ และอะไรคือข้อจำกัดของตัวแบบความสัมพันธ์ของฐานข้อมูลที่ประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจปัจจุบัน                                                                                                                                    
ตอบ เพื่อพัฒนาและกำหนดเนื้อหาของข้อมูล ความสัมพันธ์โครงสร้างของแต่ละฐานข้อมูล และปรับเปลี่ยนคุณลักษณะเฉพาะของฐานข้อมูลเมื่อจำเป็น

7.)จงอธิบายฐานข้อมูล คลังข้อมูล และตลาดข้อมูลในความเข้าใจของนักศึกษา                                                
ตอบ  เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ

8.)ทำไมตัวแบบฐานข้อมูลเชิงวัตถุ จึงได้รับการยอมรับในการนำเอามาพัฒนาและจัดการของฐานข้อมูลทางธุรกิจบนเว็บ
ตอบ  รวมทั้งการทำงานที่สามารถกระทำกับข้อมูลนั้น การสามารถในการห่อหุ้ม (Encapsulation) อนุญาติให้แบบจำลองสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน(การฟิก ภาพ เสียง ข้อความ) ได้ดีขึ้นมากกว่าโครงสร้างฐฐานข้อมูลแบบอื่น

9.)ทำอย่างไร  ที่จะนำเอาอินเทอร์เน็ตและ World Wide Web  มาใช้ในการจัดการทรัพยากรข้อมูลเพื่อประกอบทำธุรกิจได้                                                                                                                                    
ตอบ  ผู้เสนอทฤษฏีทางอุตสาหกรรมได้พยากรณ์ว่าระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงวัตถุจะกลายเป็นส่วนประกอบของซอฟต์แวร์ที่สำคัญในการจัดการหน้าสื่อประสมเซื่อมโยงหลายมิติและข้อมูลประเภทอื่นๆ


คำถามกรณีศึกษา บทที่ 4

1.) Sear  ใช้ข้อมูลภายนอกในคลังข้อมูลเพื่อปรับปรุงธุรกิจได้อย่างไร                                                            
ตอบ นำไปขยายธุรกิจและเรื่องการบริโภคของประชากรในคลังข้อมูงเพื่อพิจารณาตัดสินใจเรื่อง   สถานที่ตั้งของร้านใหม่

2.) มูลค่าทางธุรกิจ (Business  Value ) อะไรที่ MCI  ได้รับจากคลังข้อมูลภายนอก                                          
ตอบ ข้อมูลในคลังเรื่องพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าของตนและลูกค้าของธุรกิจอื่น  เพื่อปรัปรุงการโฆษณาการตลาดให้ประสบความสำเร็จโดยการรวบรวมข้อมูลภายในและภายนอกของลูกค้าและข้อมูลการตลาดในคลังข้อมูลทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ผลการดำเนินกิจการและกำหนดกลยุทธศาสตร์การตลาดได้ดีขึ้น

3.) ท่านคิดอย่างไรที่ Mary Ann Besch หมายถึงเมื่อเธอกล่าวถึงข้อมูลภายนอกว่าเป็น "ความลับวิธีการที่ทำเงินให้เรา" ในการณรงค์ทางด้านการตลาด                                                                                                    
ตอบ การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดข้อมูลมากมาย  สารสนเทศลูกค็ของที่จัดเก็บมีทั้งภายในและภายนอกจำนวนเท่า  ๆ  กัน  แต่ข้อมูลภายนอก  "เป็นความลับวิธีการที่ทำเงินให้เรา" ในการรณรงค์ทางด้านการตลาด



สรุปบทที่ 4

การจัดการฐานข้อมูล
         ข้อมูล (Data) เป็นทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นในการจัดการเหมือนกับทรัพย์สินอื่นๆ ของธุรกิจ องค์กรส่วนใหญ่จะไม่สามารถอยู่รอดหรือประสบความสำเร็จได้หากปราศจากข้อมูลที่มคุณภาพเพื่อการดำเนินกิจการภายในที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมภายนอก
           การจัดการฐานข้อมูล (Database Management )  คือ การบริหารแหล่งข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ศูนย์กลาง เพื่อตอบสนองต่อการใช้ของโปรแกรมประยุกต์อย่างมีประสิทธิภาพและลดการซ้ำซ้อนของข้อมูล รวมทั้งความขัดแย้งของข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์การ ในอดีตการเก็บข้อมูลมักจะเป็นอิสระต่อกันไม่มีการเชื่อมโยงของข้อมูลเกิดการ สิ้นเปลืองพื้นที่ในการเก็บข้อมูลเช่น องค์การหนึ่งจะมีแฟ้มบุคคล (Personnel) แฟ้มเงินเดือน (Payroll) และแฟ้ม สวัสดิการ(Benefits) อยู่แยกจากกัน เวลาผู้บริหารต้องการข้อมูลของพนักงานท่านใดจำเป็นจะต้องเรียกดูแฟ้มข้อมูลทั้ง 3 แฟ้ม ซึ่งเป็นการไม่สะดวก จงทำให้เกิดแนวความคิดในการรวมแฟ้มข้อมูลทั้ง 3เข้าด้วยกันแล้วเก็บไว้ที่ ศูนย์กลางในลักษณะฐานข้อมูล (Database) จึงทำให้เกิดระบบการจัดการฐานข้อมูล (Database Management system (DBMS) ซึ่งจะต้องอาศัยโปรแกรมเฉพาะในการสร้างและบำรุงรักษา (Create and Maintenance) ฐาน ข้อมูลและสามารถที่จะให้ผู้ใช้ประยุกต์ใช้กับธุรกิจส่วนตัวได้โดยการดึงข้อมูล (Retrieve) ขึ้นมาแล้วใช้โปรแกรมสำเร็จรูปอื่นสร้างงานขึ้นมาโดยใช้ข้อมูลทีมีอยู่ในฐานข้อมูล แสดงการรวมแฟ้มข้อมูล 3 แฟ้มเข้าด้วยกัน
ระบบการจัดการฐานข้อมูล จะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนได้แก่
            1. ภาษาคำนิยามของข้อมูล ( Data Definition Language (DDL) ในส่วนนี้จะกล่าวถึงส่วนประกอบของระบบการจัดการฐาน  
            2.  ภาษาการจัดการฐานข้อมูล (Data Manipulation Language (DML) เป็นภาษาเฉพาะที่ใช้ในการจัดการระบบฐานข้อมูล
           3. พจนานุกรมข้อมูล  (Data Dictionary) เป็นเครื่องมือสำหรับการเก็บและการจัดข้อมูลสำหรับการบำรุงรักษาในฐานข้อมูล
องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล
          - ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
          - ซอฟท์แวร์ (Software)
          - ข้อมูล (Data)
          - ผู้บริหารฐานข้อมูล (Database Administrator)
          -โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
          - ผู้ใช้ (End User)
ข้อดีของระบบฐานข้อมูล
          - ลดความยุ่งยาก คือ ดำเนินการยาก
          - ลดความซับซ้อน คือ มีหลายขั้นตอน
ข้อเสียของระบบฐานข้อมูล
          - มีค่าใช้จ่ายสำหรับฮาร์ดแวร์
          - มีค่าใช้จ่ายสำหรับซอฟท์แวร์
          - มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เชี่ยวชาญ
ที่มา: http://www2.cvc.ac.th/trsai/it/learning1/chapter7.htm



สรุปสิ่งที่ได้จากการไปศึกษาดูงาน

สรุปสิ่งที่ได้จากการไปศึกษาดูงาน บริษัท ชลประทานซีเมนต์จำกัด(มหาชน)        บริษัทเริ่มมีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์แห่งแรกเมื่อปี 2501   ...